ก่อนจะทำอะไรก็ตามเราควรจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนลงมือทำทุกครั้ง ซึ่งการดำเนินธุรกิจก็เช่นกันเดียวกัน นักลงทุนจำเป็นต้องทราบถึงเป้าหมายของธุรกิจเสมอ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ถึงทิศทางที่ธุรกิจจะดำเนินต่อไป ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายของธุรกิจร้านอาหารในลาวคือ ขายอาหารให้ได้ตามยอดขายที่ตั้งไว้ เมื่อเรารู้ถึงเป้าหมายที่แน่ชัดของธุรกิจร้านอาหารแล้ว สิ่งที่ควรทราบต่อไปก็คือ วิธีการสร้างรายได้ของธุรกิจ นักลงทุนจะต้องวิเคราะห์วิธีการสร้างรายได้ของธุรกิจว่า เหมาะสมกับตัวธุรกิจนั้นหรือไม่ เพราะวิธีการสร้างรายได้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารในลาวสามารถที่จะตั้งราคาอาหารที่แพงขึ้นจากบรรยากาศร้านและการเพิ่มสิ่งบันเทิงต่างๆได้หรือไม่ ร้านอาหารต้องการขายในราคาถูกแต่ขายได้เยอะหรือขายได้น้อยลงแต่ตั้งราคาต่อจานมากขึ้น เป็นต้น การดำเนินงานของธุรกิจถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ สำหรับการวิเคราะห์การดำเนินงานของธุรกิจร้านอาหารในลาวนั้น นักลงทุนสามารถสังเกตได้จาก จำนวนสาขาครอบคลุมหรือไม่ ทำเลที่ตั้งเหมาะสมหรือเปล่าและมีลูกค้าจำนวนมากหรือไม่ที่ต้องการมาใช้บริการ เป็นต้น ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนสามารถประเมินผลการดำเนินงานของตัวธุรกิจได้ว่าดีหรือไม่
สำหรับสามข้อที่ผ่านมานี้จะทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในตัวของธุรกิจมากขึ้น ส่วนในข้อสุดท้าย นักลงทุนจำเป็นต้องวิเคราะห์ ตำแหน่งของตัวธุรกิจที่นักลงทุนสนใจกับคู่แข่ง เราปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจร้านอาหารในลาวมีการแข่งขันสูง เนื่องจากในปัจจุบันนี้ มีร้านอาหารในลาวมากมายให้เราเลือกรับประทาน แต่หากลองเปลี่ยนมาดูอุตสาหกรรมอื่น เช่น อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ จะพบว่ายี่ห้อของคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีให้เลือกมากมายเหมือนร้านอาหาร ยี่ห้อที่เห็นกันโดยทั่วไป เช่น Acer, Apple, Dell, Samsung เป็นต้น นั่นอาจหมายถึง อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์มีการแข่งขันที่ไม่รุนแรงเท่ากับธุรกิจร้านอาหารในลาว แต่อีกความหมายหนึ่งก็คือ การแข่งขันในอุตสาหกรรมทั้งสองมีความเสี่ยงแตกต่างกัน การที่อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก เมื่อเทียบกับร้านอาหารในลาวดังนั้นความเสี่ยงสำหรับอุตสาหกรรมผลิตคอมพิวเตอร์ย่อมมีมากกว่าร้านอาหารในลาวแน่นอนและการคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์อาจจะยากกว่า ส่งผลให้มีสินค้าให้เลือกในตลาดน้อยกว่า การแข่งขันทางราคาน้อยกว่า ที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินว่า ธุรกิจอยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถรับมือกับการแข่งขันในตลาดได้ดีหรือไม่และสามารถรับมือได้ในระดับใด