จากที่รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยและประกาศให้ท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเป็นธุรกิจหนึ่งที่ก่อให้เกิดรายได้หลักของประเทศ ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อมและการแข่งขันกับทั่วโลก ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอย่างธุรกิจรถบัสจึงจำเป็นที่ต้องพัฒนาตนเองเพื่อสร้างจุดเด่นที่แตกต่างในการส่งเสริมธุรกิจเช่นกัน
จำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปีจะเพิ่มมากขึ้นทั้งจากทวีปยุโรป ทวีปเอเชีย รวมทั้งยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จากประเทศรัสเซียเข้ามาเสริมมากยิ่งขึ้นด้วยบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงอย่างเดียว จึงได้ใช้รถโดยสารจากยุโรปแบบชั้นเดียวเพียงเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มผู้โดยสารต้องการรถที่มีมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยในการพักผ่อนที่มีเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ดังนั้นทางบริษัทจึงได้เพิ่มรถบัสโดยสารยี่ห้อสแกนเนียมาอีก 40 คันรวมกับของเดิมอีก 40 คันทำให้เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมีเพิ่มอย่างแน่นอน เพื่อทำให้ผู้โดยสารเห็นว่ารถบัสที่นั่งไปมีความปลอดภัย ความเร็วที่คนขับใช้จะไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เราจึงติดระบบ GPS เพื่อดูความประพฤติของคนขับพร้อมทั้งยังสามารถทราบถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารที่จะได้รับเมื่อเกิดอุบัติเหตุด้วย ถือได้ว่าสิ่งเหล่านี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติสูงสุด
จากประสบการณ์ที่มีในธุรกิจรถบัสมากว่า 50 ปี ทำให้ทราบว่ามาตรฐานของรถใหม่จะสูงกว่ามาตรฐานของรถเก่าที่นำมาประกอบใหม่มาก จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งผู้ที่ทำให้เกิดก็คือ คนขับถึง 80% และคุณภาพของตัวรถอีก 20% หากทุกบริษัทรถบัสมีระเบียบการควบคุมความประพฤติของคนขับก็จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้มาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการใช้รถโดยสารใหม่ที่ช่วยลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างมากรวมทั้งช่วยลดต้นทุนของพลังงานเชื้อเพลิงลงได้อีกด้วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศจะสามารถพัฒนาไปได้อีกไกลแค่ไหน และจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศของเราหรือไม่ คงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายมาช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจรถบัสนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้