Category Archives: สินค้า

การแข่งขันขายถุงพลาสติกทางอุตสาหกรรมมีมากขึ้นในปัจจุบันนี้

ถุงพลาสติกไม่สามารถย่อยสลายได้เองง่ายอย่างที่คุณคิด

การขายถุงพลาสติกจัดเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผู้ขายมากรายผู้ผลิตมีการแข่งขันกันเองภายในอุตสาหกรรมซึ่งเป็นการแข่งขันที่สูงมาก โดยกลยุทธ์ที่สำคัญจะเป็นการแข่งขันที่มิใช่ราคาคือแข่งขันในด้านรูปแบบ ความทนทาน คุณสมบัติเฉพาะระดับเทคโนโลยีและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บางรายเน้นผลิตถุงพลาสติกที่ย่อยสลายง่าย ไม่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมนานหรือบางรายเน้นผลิตและขายถุงพลาสติกชนิดทนทาน สามารถนำมาใช้ซ้ำๆ ได้หลายครั้งหรือสามารถรีไซเคิลได้ดีด้วยการนำมาหลอมเป็นวัตถุดิบผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ ได้ เป็นต้น นอกจากนี้การขายถุงพลาสติกยังมีแนวโน้มการแข่งขันที่มากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่สามารถผลิตได้ง่าย เทคโนโลยีไม่ซับซ้อนและสามารถใช้การผลิตขนาดเล็กก็ทำได้

การเข้าสู่อุตสาหกรรมของผู้ประกอบการรายใหม่สามารถทำได้ไม่ยากนัก เนื่องจากใช้เงินลงทุนในเครื่องจักรไม่สูงทั้งด้านการผลิตและการตลาด รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ไม่ซับซ้อน ส่งผลให้มีผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางเข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อุตสาหกรรมการขายถุงพลาสติกมีการแข่งขันทั้งกับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่น ถุงกระดาษ กระสอบป่าน เป็นต้นในกรณีนี้ อุตสาหกรรมถุงพลาสติกมีความสามารถการแข่งขันที่ดีเนื่องจากขายถุงพลาสติกมีคุณสมบัติที่หลากหลายในทั้งด้านขนาด ความทนทาน ราคาและรูปแบบสีสันต่างๆ ทำให้ใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นได้ดี

เนื่องจากในประเทศไทยมีผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรายใหญ่เพียง 3 รายคือ บริษัทบางกอกโพลีเอทธิลีน บริษัทไทยโพลีเอทธิลีนและบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) ในขณะที่ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกนั้นมีหลากหลายและปริมาณมาก จากทั้งการนำไปผลิตและขายถุงพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ ทำให้ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกมีอำนาจต่อรองสูงและมักเกิดเหตุการณ์เม็ดพลาสติกขาดตลาด เนื่องจากมีผู้ผลิตมากรายและคุณภาพสินค้าที่ไม่ต่างกันมากประกอบกับธุรกิจในกลุ่มนี้ไม่มีการสร้างตราสินค้าที่จะช่วยให้เกิดความจงรักภักดีต่อยี่ห้อผู้ซื้อจึงมีอำนาจในการต่อรองราคาสูง

ประโยชน์ของเมล็ดเจียที่มีมากกว่าที่เราทราบกัน

health (5)

เมล็ดเจียมีมานานแล้วก่อนที่จะได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ (หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเมล็ดเจียคือเมล็ดแมงลัก แต่เมล็ดพืชสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันนะคะ) เชื่อกันว่าเมล็ดเจียคืออาหารหลักของชาวแอซเท็กโบราณและชาวมายา และเป็นเมล็ดพืชที่ให้พลังงานสูงมากพวกเขาจะรับประทานเมล็ดเจียก่อนที่จะทำศึกสงคราม เส้นใย 11 กรัมบวกกับโปรตีน 4.4 กรัมในเมล็ดเจียจะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักโดยทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น นอกจากนี้เมล็ดเจียยังสามารถดูดซึมน้ำได้มากกว่าน้ำหนักของตัวเองถึง 10 เท่า ทำให้มีสารอาหารเต็มเปี่ยมซึ่งสามารถนำไปใส่ในเครื่องดื่มสมูธตี้และขนมอบของคุณได้ แต่อย่ารับประทานมากเกินไปมิเช่นนั้นคุณสมบัติของเส้นใยอาจทำให้ท้องไส้ของคุณปั่นป่วนได้ เมล็ดเจียมีสารอาหารที่จำเป็นอย่างหนึ่งซ่อนอยู่นั่นก็คือแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยรักษาระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลให้ต่ำอยู่เสมอ และถ้าระดับแมกนีเซียมในร่างกายต่ำก็เป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะและเหนื่อยล้าง่าย นอกจากนี้เมล็ดเจียยังอุดมไปด้วยทริปโตเฟน (พบได้ในไก่งวงของคุณย่าในวันขอบคุณพระเจ้า) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนินและช่วยต่อสู้กับความเครียด

เมล็ดพันธุ์พืชขนาดจิ๋วเหล่านี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีมากกว่าในปลาแซลมอนเสียอีก แถมยังช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย ไขมันดังกล่าวจะช่วยบำรุงผิวหนัง, เส้นผมและเล็บ ที่สำคัญช่วยลดอาการอักเสบบวมแดง รวมทั้งกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้อีกด้วย เอาล่ะเชิญกล่าวทักทายผิวพรรณอันผ่องใสกันได้เลย การรับประทานเมล็ดเจียเพียงหนึ่งหน่วยบริโภคก็ได้รับแคลเซียมมากถึงเกือบร้อยละ 20 ของปริมาณที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันแล้ว (หากเทียบด้วยน้ำหนักเท่ากัน เมล็ดเจียจะมีแคลเซียมมากกว่านม) เมล็ดเจียคือทางเลือกที่วิเศษสำหรับผู้ที่ไม่ดื่มนม การได้รับแคลเซียมที่เพียงพอจะหมายถึงกระดูกและฟันที่แข็งแรง ยังไม่รวมถึงช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์ผิวและความชุ่มชื้นอีกด้วย บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงแต่คราวนี้ถึงตาเมล็ดเจียออกโรงแล้ว หนึ่งหน่วยบริโภคของเมล็ดเจียประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าบลูเบอร์รี่ถึง 3 เท่า สารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากพวกมันจะช่วยให้เซลล์ในร่างกายต่อสู้กับสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่าลืมใช้บำรุงผิวพรรณของคุณเป็นประจำทุกวันด้วยนะ) เราควรขบเคี้ยวเมล็ดพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารเหล่านี้หลังจากที่รับประทานอาหารเม็กซิกันเค็มปี๋ทำไมน่ะเหรอ เพราะสารโปแตสเซียมในเมล็ดเจียจะช่วยลดอาการบวม

คอลลาเจนผง bella colla สกัดมาจากเกล็ดปลาน้ำจืดที่ได้รับการควบคุมเฉพาะเท่านั้น

10627-1

bella colla คือ คอลลาเจนผง สกัดจากเกล็ดปลาแท้ 100% ใช้ดื่มผสมกับเครื่องดื่มที่ท่านชื่นชอบ วันละ 1-2 ช้อนชา เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยฟื้นฟู บำรุงผิวพรรณ บำรุงไขข้อ และช่วยบำรุงสุขภาพ ผม เล็บ ต่างๆ bella colla เป็นคอลลาเจนผง (Hydrolized Collagen) ที่สกัดมาจากเกล็ดปลาแท้ ธรรมชาติ 100% มีโมเลกุลเล็กดูดซึมได้ง่าย ควบคุมการผลิตโดยบริษัทญี่ปุ่น ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับอาหารมากมาย คุณภาพสูงส่งออก ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฯ และเป็นผลิตภัณฑ์คอลลาเจนยี่ห้อเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัล เหรียญทองสูงสุด (Grand Gold Award) จากสถาบันการันตีคุณภาพอาหารระดับโลก Monde Selection ปี 2013

bella colla เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีตลาดหลักเป็นตลาดต่างประเทศ (ญี่ปุ่น จีน เกาหลีฯ) จึงไม่ค่อยเห็นวางขายทั่วไปนัก ตลาดของ bella colla ในต่างประเทศเป็นตลาดที่ใหญ่ มีการผลิตส่งออกเป็น Mass Production ผลิตเป็นจำนวนมาก จึงจัดจำหน่ายได้ในราคาถูก และเนื่องจากในประเทศ ไม่เน้นการโฆษณา ซึ่งทำให้สามารถลดต้นทุนการโฆษณา การจ้างพรีเซนเตอร์ การทำแพคเกจราคาแพง ลงไปได้อีกมาก คอลลาเจนผง bella colla สกัดมาจากเกล็ดปลาน้ำจืด ที่ได้รับการควบคุมเฉพาะเท่านั้น โดยในกระบวนการผลิต เบลลา คอลลา มีการควบคุมตั้งแต่การเพาะเลี้ยงปลา สถานที่เลี้ยง พันธุ์ปลา ไปจนถึงการคัดเลือกเกล็ดที่จะนำมาใช้ โดยจะต้องเป็นเกล็ดที่ได้ขนาดตามมาตรฐานของบริษัท ซึ่งทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน ที่มีมาตรฐานสูงและได้ประโยชน์ครบถ้วน ไม่มีอันตราย สามารถบริโภคได้แม้ผู้ที่แพ้อาหารทะเล

Collagen จากแหล่งอื่นๆ เช่น Collagen จากปลาทะเล ปลาทะเลในกรณีที่เป็นปลาที่จับตามธรรมชาติมีปลาบางชนิดที่ไม่รู้พันธุ์ปลาหรือแหล่งที่อยู่อาศัย ทำให้ยากในการควบคุมมาตรฐานของสินค้าและอาจเกิดอันตรายในกรณีที่ปลาเหล่านั้นเป็นพาหะของโลหะหนัก ทำให้เราบริโภคโลหะเหล่านั้นเข้าไปได้โดยไม่รู้ตัว Collagen จากหนังปลาเนื่องจากหนังปลามีไขมันอยู่มาก ทำให้การทำความสะอาดเพื่อนำมาสกัดเป็นไปได้ยากลำบากทำให้มีผลด้านความสะอาดต่อผลิตภัณฑ์ได้ Collagen จากหมูและวัวหมูและวัวมีโอกาสติดโรคได้ง่ายทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของสินค้าได้ แต่ถ้าคอลลาเจน bella colla คุณจะได้คุณสมบัติที่ดีต่อผิวพรรณของคุณ

หน้าที่ของสายพานทั้งเครื่องยนต์และเครื่องจักรที่เราไม่รู้มาก่อน

e6

หน้าที่ของสายพานไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรชนิดไหนล้วนนำสายพานมาใช้งานแทบทั้งสิ้น เนื่องจากสายพานทำหน้าที่ส่งกำลังจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างดีและไม่เสียพลังงานระหว่างทางมากนักสายพานมีหลายชนิดแต่ละชนิดก็เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับสายพานหน้าเครื่องยนต์นั้นมักนิยมใช้สายพานแบบลิ่มเนื่องจากมีลักษณะแบนทำจากวัสดุเส้นใย ธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ ห่อหุ้มด้วยยางผ่านกรรมวิธีทางเคมีจึงมีความเหนียวมีความทนทานเป็นอย่างมากสายพานมีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีทั้งแบบร่องเดียวและหลายร่องโดยมีตัวเลขบอกขนาดต่างๆ เช่น 5PK890 หมายถึง แบบ 5 ร่อง ยาว 890 มม. หรือ 9.5×975 หมายถึง แบบร่องเดียว ขนาดร่องหนา 9.5 มม. ยาว 975 มม. เป็นต้น

รถสมัยก่อนมักมีสายพานหน้าเครื่องหลายเส้นระหว่างการใช้งานต้องหมั่นปรับตั้งความตึงกันบ่อยๆ แถมยังมีอายุของการใช้งานที่ไม่นานนักด้วย แต่สมัยนี้สายพานหน้าเครื่องมีเพียง 1-2 เส้นเท่านั้น สายพานแบบนี้เรียกว่าเซอร์เพนไทน์สายพานนี้ถูกออกแบบให้ใช้ขับเคลื่อนทุกอย่างได้ในเส้นเดียวไม่ว่าจะเป็น ไดชาร์จ, คอมพเรสเซอร์แอร์ ปั๊มเพาเวอร์ ฯลฯ ทำให้ทำงาน ได้ราบเรียบไม่ซับซ้อนและยังมีลูกรอกที่สามารถปรับตั้งสายพานได้อัตโนมัติโดยลูกรอกนี้จะปรับให้ สายพานอยู่ในสภาวะที่ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปตลอดการใช้งานซึ่งสภาพการทำงานดังกล่าวนี้ทำให้สายพานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนได้อีกด้วย

การดูแลสายพานหน้าเครื่องนั้นง่ายมากเนื่องจากสายพานอยู่ในตำแหน่งมองเห็นได้ง่ายถ้าได้ยินเสียงดังจากสายพานอันดับแรกควรเชคระยะตึงของสายพานก่อน โดยต้องมีความตึงพอประมาณไม่ตึงมากจนเกินไปเพราะถ้าตึงเกินไปก็กินกำลังเครื่อง เกินจำเป็นแต่ถ้าหย่อนเกินไปก็ส่งถ่ายกำลังไม่เต็มที่ แถมยังทำให้เกิดเสียงได้จากการเสียดสีกันระหว่างสายพานกับพูลเลย์ได้อีกด้วย ในบางครั้งเมื่อมีการโหลดของเครื่องยนต์มากๆ เช่น หมุนพวงมาลัยสุดก็จะทำให้เกิดเสียงได้ ดังนั้นการตั้งสายพานให้อยู่ในระยะที่พอดีเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสายพานหน้าเครื่องโดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 50,000 กม. หรือประมาณ 2-3 ปี สายพานที่ดีต้องไม่มีรอยแตกลายงาที่เนื้อยางดังนั้นถ้าตรวจพบสายพานแตกเป็นบั้งๆ แล้วละก็เปลี่ยนใหม่ได้เลย

การเลือกวัสดุก่อสร้างที่ไม่ยุ่งยากใครๆก็เลือกเองได้

2001

การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างนั้นไม่มีสูตรตายตัวหรือวัสดุชนิดใดใดจะดีสมบูรณ์แบบทำให้เราต้องมาปวดหัวกับการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่จะเหมาะสมกับบ้านของเรานอกเหนือจากเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น 4 อย่างแล้ว ทุกวันนี้ยังมีเรื่องอื่นให้เราพิจารณาอีกด้วย ในกระแสของวัฒนธรรมการพึ่งตนเองนั้นจะมีประเด็นสำคัญที่มาให้คำจำกัดความของวัสดุก่อสร้างที่ดีคือ หาได้ง่ายหรือไม่สามารถใช้งานได้ง่ายหรือไม่วัสดุนั้นสามารถใช้งานได้สมประโยชน์หรือไม่หาได้ง่ายมีอยู่ในพื้นที่อย่างเพียงพอหาซื้อได้สะดวกมีขายตามร้านค้าวัสดุก่อสร้างในราคาที่เราสามารถหาซื้อได้ ไม่ขาดแคลน (ซึ่งจะเป็นวัสดุที่ผลิตในระบบอุตสาหกรรม ที่มีปริมาณการผลิต คราวละมากๆ เพื่อทำให้วัสดุนั้นมีต้นทุนที่ถูกลงและขนส่งได้ง่ายขึ้น เพื่อความสะดวกกระจายสินค้าออกสู่ตลาด) ใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องมีกระบวนการมากมาย ยุ่งยาก ในการใช้งาน หรือไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการติดตั้ง ใช้งานได้สมประโยชน์ คือการตอบสนองต่อการใช้งานอย่างได้ผลคุ้มค่าคุ้มราคา

แต่การผลิตเพื่อสนองตอบความต้องการดังกล่าวจะเป็นกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมักก่อให้เกิดมลพิษและของเสียออกมาด้วย บ่อยครั้งตัววัสดุ ก็เป็นสิ่งอันตรายเสียเอง พวกวัสดุสังเคราะห์ส่วนใหญ่ มักจะปล่อยสารประกอบหรือก๊าซที่เป็นอันตรายสู่อากาศอย่างต่อเนื่องอย่างยาวนานหลังการติดตั้ง บ้านที่ปิดประตูหน้าต่างอย่างดีประกอบกับวัสดุที่ปล่อยสารพิษอันตรายออกมาก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนั้นกระบวนการผลิต การขนส่งและการใช้วัสดุหลายชนิดยังก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และเป็นตัวทำลายสภาพแวดล้อมนอกอาคารไปด้วย ดังนั้นวัสดุก่อสร้างที่ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอกอาคาร ก็ไม่อาจกล่าวว่าเป็นวัสดุที่ดีได้จึงมีข้อควรคำนึงถึงอีก 3 ข้อ ที่เราไม่ควรมองข้ามเพื่อให้ได้โลกสีเขียวกลับคืนมาในสภาวะโลกร้อน ที่เราเผชิญอยู่คือ

วัสดุที่ใช้ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาคารหรือไม่ ความซับซ้อนของกระบวนการผลิตสินค้าในระบบอุตสาหกรรม มักมีสาเหตุ หรือสร้างความเสียหาย ต่อระบบนิเวศของพื้นที่นั้นๆ เช่น กระบวนการตัดไม้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม หรือการระเบิดภูเขาหินเพื่อนำมาผลิตเป็นคอนกรีต ก็เป็นการสร้างมลภาวะกับสภาพแวดล้อมโดยตรง สามารถนำเศษวัสดุที่เหลือกลับมาใช้ใหม่ได้หรือไม่ลักษณะของวัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน ในระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรมคือ จะเป็นระบบพิกัดประสาน(โมดูล่า) หรือมีขนาดมาตรฐานใกล้เคียงกัน แต่การใช้งานจริงนั้น เราไม่ได้ใช้วัสดุนั้นเต็มตามขนาด แต่จะต้องมีการตัดซอย แบ่ง วัสดุต่างๆ ให้ได้ขนาดตามที่เราต้องการจะใช้งาน ดังนั้นเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้นลง สถานที่ก่อสร้างนั้นจะเต็มไปด้วยกองขยะวัสดุก่อสร้างต่างๆ เช่นไม้อัด, ไม้แปรรูป, ฉนวนไฟเบอร์กลาส และวัสดุอื่นๆ ที่ถูกตัดออกมาจากวัสดุที่มีขนาดมาตรฐานเหล่านี้ กองขยะวัสดุเหล่านี้ ก็จะเป็นภาระในการขนย้าย หาที่ทิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นสภาพที่ทำลายสภาพแวดล้อมธรรมชาติไปอีกนาน

การเลือกใช้คอนกรีตพิมพ์ลายและขั้นตอนกับวิธีการทำงานเตรียมพื้น

1512354_818986168135866_3241683190721839899_n

การเลือกปูพื้นด้วยวัสดุและประเภทพื้นแบบใดคงจะขึ้นกับความพอใจของผู้บริโภคเป็นสำคัญแต่หากท่านไม่แน่ใจหรือลังเลสงสัยว่าจะปูพื้นบริเวณที่ต้องการด้วยวัสดุประเภทใด เราขอเสนอคอนกรีตพิมพ์ลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจเพราะเหตุผลสำคัญดังต่อไปนี้ ราคาคอนกรีตพิมพ์ลายเมื่อเทียบกับพื้นที่ทำจากวัสดุอื่นๆ ราคาค่าวัสดุและค่าแรงจะถูกกว่า หรือใกล้เคียงกับการปูพื้นด้วยกระเบื้องเกรด A คุณภาพของคอนกรีตพิมพ์ลายผลิตจากวัสดุเกรด A มีการใช้ปูนลงสีและเคลือบน้ำยาอะคลีลิค เพื่อป้องกันรังสียูวี การเกิดตะใคร่น้ำ และคราบสกปรกต่างๆ ขณะที่การปูพื้นอื่นๆ ไม่ได้มีการเคลือบน้ำยาอะคลีลิค ความแข็งแรงของคอนกรีตพิมพ์ลายจะมีความแข็งแรงมาก โดยการใช้ปูนมอร์ต้า มีความแข็ง อยู่ระหว่าง 425-450 โดยเทที่ความหนา 3-5 เซ็นติเมตรและมีการลงสีพิเศษ Color Hardener ฝังในเนื้อปูน 2-3 มิลลิเมตร โดยมีการใช้น้ำยาอะคลีลิคทับหน้าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้เนื้อคอนกรีต ความสวยงามของพื้นมีสีและลวดลายให้เลือกได้ตามความพอใจของผู้ใช้ ดูแลง่ายกว่าพื้นชนิดอื่นๆ ใช้น้ำล้างออกได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดเหมือนพื้นชนิดอื่นๆ คอนกรีตพิมพ์ลายมีสีสรรค์ รูปแบบที่ใกล้เคียงกับหินธรรมชาติ ทำให้เหมาะการนำไปใช้กับสถานที่ที่ต้องการบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีพื้นผิวที่ไม่เรียบลื่น จึงเหมาะกับพื้นที่นอกอาคารที่ป้องกันการลื่นหกล้ม ได้ดี

ขั้นตอนและวิธีการทำงานเตรียมพื้นที่ส่วนที่จะทำคอนกรีตพิมพ์ลายทั้งนี้จะต้องมีพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเดิมอยู่แล้ว โดยต้องมีความหนาไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร สำหรับลานจอดรถ ถนนในบริเวณบ้าน ลานรอบสระว่ายน้ำ สำหรับถนนหรือพื้นที่ ๆ ต้องการรับน้ำหนักมาก ๆ เช่น ถนนที่มีการสัญจรไปมาของรถยนต์ เช่น ทางเข้าโครงการ ลานจอดรถสาธารณะ เป็นต้น จะต้องมีความหนาของพื้น คสล. เดิมไม่ต่ำกว่า 15 เซนติเมตร ทิ้งไว้ให้คอนกรีตได้ระยะเวลาพอเหมาะก็จะทำการโรยสีเคลือบความแข็งแรงตามเฉดสีที่เลือกให้ทั่วบริเวณพื้น และขัดสีจนสม่ำเสมอ พิมพ์ลายลงบนพื้นผิวจากนั้นจึงใช้แบบพิมพ์ยาง(ตามลวดลายที่เลือก)พิมพ์ลายลงบนพื้นผิว ขณะที่ปูนยังไม่แข็งตัวตัว จนทั่วบริเวณพื้นคอนกรีต เพื่อให้พื้นมีลวดลายตามแบบที่ต้องการ ตกแต่งและล้างทำความสะอาดเมื่อผิวคอนกรีตแข็งตัว จะทำการตกแต่งและล้างทำความสะอาด และทิ้งไว้ให้แห้ง หลังจากนั้นจะทำการเคลือบน้ำยาอาคลีลิคเพื่อเคลือบผิวทั้งหมด น้ำยาอาคลีลิคจะเข้าไปอุดรูพรุนบนผิวคอนกรีต ทำให้ผิวไม่ซึมซับน้ำ ลดการดูดซับความสกปรกต่าง ๆ และง่ายต่อการทำความสะอาด เพิ่มความแข็งของผิวหน้าและป้องกันยูวีจากแสงแดด ได้อย่างดี รวมทั้งจะทำให้ผิวของพื้นคอนกรีพิมพ์ลายดูเข้ม และมีสีสันสวยงามยิ่งขึ้นคอนกรีตพิมพ์ลาย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หน้าสนใจไม่น้อย มีทั้งความสวยงานและทนทาน แล้วยังสามารถทาเคลือบเงาได้ใหม่ถ้าความเงาของพื้นหายไป แต่ก็ถือว่าราคายังสูงเมื่อเทียบกลับพื้นคอนกรีตทั่วไป

คริสตัลเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในปัจจุบัน

T2OSGOXXdaXXXXXXXX_!!825225026

คริสตัลก็คือแก้วนั่นเองเป็นแก้วที่ผ่านกรรมวิธีผลิตและเจียระไน ด้วยฝีมือช่างชั้นเลิศ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคริสตัลถึงราคาแพง เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะตัดเหลี่ยมตัดมุมแก้วให้สะท้อนแสงระยิบระยับเหมือนอัญมณีชั้นเลิศได้อย่างที่เราเห็น คริสตัลทำจากแก้วคุณภาพสูงหรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นแก้วผสมตะกั่ว-ด่างบางทีเป็นแก้วที่ผสมธาตุ โปแตช ปูนขาว ซิลิก้า ซึ่งล้วนทำให้แก้วมีเนื้อละเอียดและแข็งแรงทนทานกว่าแก้วที่เราใช้กินน้ำทั่วไป ซึ่งคริสตัลจะหนักกว่าและแข็งแรงกว่าจริง ๆ

ด้วยคุณสมบัติทนทานนี่เองส่วนใหญ่เราจะใช้คริสตัลเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เช่น หลอดเทอร์โมมิเตอร์ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องไฟฟ้าหรือไม่ก็ใช้ในห้องทดลองกัมมันตภาพรังสี แต่ที่พลาดไม่ได้ คือ การนำ คริสตัลมาเป็นผลงานศิลปะ เครื่องประดับสุดหรู คริสตัลกลายเป็นผลผลิตทางศิลปะ ตั้งแต่ ค.ศ. 1676 ด้วยฝีมือของศิลปินชาวอังกฤษ นาม จอร์จ ราเวนสคอฟและเพื่อน ๆ ค้นพบว่าถ้านำคริสตัลมาเจียระไนแล้วมันจะกลายเป็นสิ่งที่วิเศษมหัศจรรย์จากนั้นศิลปะคริสตัลก็เริ่มขยายไปทั่วยุโรป แต่ถ้าพูดถึงศิลปะและอัญมณีที่ทำจากแก้ว เริ่มตั้งแต่สมัย 4000 ปี ก่อน ค.ศ. โดยพบหลักฐานว่าชาวอียิปต์หลอมแก้วเป็นที่ใส่น้ำหอมขวดเล็ก ๆ ที่งดงาม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเป่าแก้วเริ่มขึ้นที่ซีเรียช่วง 100 ปีก่อน ค.ศ. จากนั้นค่อย ๆ กลายเป็นอุตสาหกรรมสำคัญโดยในช่วงศตวรรษที่ 13-15 เป็นช่วงที่มีการนำเทคโนโลยีและการออกแบบมาทำให้แก้วแข็งแรงและสวยงามขึ้น

กิจการทำแก้วฟูเฟื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลีกลายเป็นศูนย์กลางของการทำแก้วสำหรับบริษัทที่ทำเครื่องแก้วคริสตัลชั้นนำของโลกปัจจุบัน ได้แก่ วอเตอร์ฟอร์ด ในไอร์แลนด์และโรกัสกา ในสโลเวเนียส่วน คริสตัลที่เป็นเครื่องประดับวางโชว์ในตู้กระจก ได้แก่ ของสวารอฟสกีของออสเตรียการดูตำหนิของคริสตัลค่อนข้างยากแต่ก็ไม่ถึงกับมองไม่เห็น ต้องส่องดี ๆ คริสตัลบางอันจะมีรอยร้าวรอยขีดข่วนถ้าเป็นคริสตัลชั้นเลิศจะแทบไม่มีรอยตำหนิเลย และเนื้อแก้วจะใสมากจนกลายเป็นคำพูดที่หมายความว่าเข้าใจชัดแจ้งแจ่มแจ๋ว เช่น มีคนถามว่า Are you clear? คุณเข้าใจชัดหรือเปล่าก็ตอบตอบว่า Crystal หมายถึงสุดจะเข้าใจเลยล่ะ http://www.bead2u.com/